21 April 2014

เป็นเกียรติอย่างสูง

ได้ยินว่า โคลงสี่สุภาพที่เขียนอาลัยป้าเหวิน ได้ถูกนำมาอ่านในงานฌาปนกิจศพป้าเหวิน เมื่อวันเสาร์ที่ 19 เม.. 2557ด้วย... แม้ว่าจะไม่ได้ไปอ่านเอง เพราะเหตุว่าไม่ได้อยู่ไทย ขณะนี้ก็ตาม

อยากจะบอกว่า เป็นเกียรติ และ เป็นความกรุณาอย่างสูงเลยครับ ที่ได้มีการอ่านบทกวีนี้ เพื่อแสดงถึงเจตน์จำนงอันแรงกล้าของป้าเหวิน ที่ได้ต่อสู้ร่วมกันมาเพื่อหวังให้ประเทศนี้ดีขึ้น ... และเพื่อชาติศาสน์กษัตริย์ จะได้คงอยู่แผ่นดินไทย ตราบชั่วกาลนาน ...
_______________________________________________________________________

วสันตดิลกฉันท์

พร้อมอยู่ หมู่ปณิธิหมาย .... พลิกายถวายชนม์
เพื่อชาติพระศาสน์และอนุสน-.......ธิกษัตริย์ประการสาม
เป็นฉันทะมั่นกมละเดี่ยว.........ดุจะเดียวแสดงนาม
เพื่อการมล้างอสุระขาม.............ปฏิรูปประเทศไทย
เพื่อการ "วิรุฬ" สุภะประเสริฐ...ภัทระเลิศะใดใด
เพื่อแดนสวรรค์ปุระมไห-............ศะพิสิฐตลอดกาล
ผ่านกาละนานอธิกะทิน-............กรผินจำเนียรวาร
เพื่อนผองคระลองมนะจะหาญ.......ก็จะสู้ ลืมลง
ด้วยนี่แหละเป็นปณิธิอัตถ์..........อุชุสัจจ์วจีจง
แห่งพันธมิตรนิมิตะคง..................ลุนิพัทธ์นิรันดร์นัย
หลับเถิดและให้ทุมนะปลอด........ภยะรอดนิรามัย
หลับให้สบายสิริพิไล....................เถอะนะป้า แดนสรวง (เทอญนา)

18 April 2014

เรื่องของสระอู (กาพย์ห่อโคลง)


เมื่อวาน นั่งทำ code เครียด อยู่ ... เผอิญเห็นกาพย์ยานี "เรื่องของสระอู" ในหน้าเพจอ.ปานเทพ แล้วจู่ ไปค้นเจอ (โดยบังเอิญอีก) ว่า กาพย์ที่อ.ปานเทพแต่งเนี่ย ดัดแปลงมาจากกาพย์ห่อโคลงนิราศธารทองแดง ของเจ้าฟ้ากุ้ง ... ซึ่งมันมีอยู่บทนึง ช่วงกลาง นิราศ ตอนพรรณาถึงniche ของสัตว์กลางป่า มีคำที่ใช้สระอูล้วน เลยทั้งบท (ทั้งกาพย์ทั้งโคลง)... โดยที่อ.ปานเทพ เอาเหตุการณ์บ้านเมืองปัจจุบัน มาดัดแปลงเข้าไป
และประกอบกับว่า เกิดอารมณ์อยากเติมกาพย์ของอ.ปานเทพ ให้เป็นกาพย์ห่อโคลงพอดี (อารมณ์ให้เหมือนกาพย์ห่อโคลงของเจ้าฟ้ากุ้งว่างั้น555)... เลยจัดการแต่งโคลงสี่สุภาพกำกับไปซะเลย...
----------------------------------------
เรื่องของสระอู (กาพย์ห่อโคลง)

ดูกู สู้ปูอยู่ ปูสุดสู้ มุดรูหนู
หนูปู ดูงูตู่ งูตู่ลู่ สู่รูปู

ดูกู กูสู่สู้ ...... ...ปูปู
ปูมุดสู่รูหนู.........สุดสู้
หนูปูสู่รูดู..........งูตู่
งูตู่ลู่ดูรู้.............รุดกู้รูปู


หมูตู่ อยู่คูปู หมูขู่ฟู่ สู้สูกู
หมูตู่ ขู่สู้งู งูขู่สู้ หมูมูทู

หมูตู่ กรูอยู่ขู้ ....... รูปู
หมูฟู่สู่สูกู..............ขู่สู้
หมู่ตู่ขู่สู้งู...............มูฟู่
งูขู่สู้หมูตู้..............หมู่ทู้มูทู


หมูงู อยู่ชูปู ทูคู่ตู่ คู่ทู่ปู
สูดู หมูงูปู ปูงูหมู อยู่รูคู

หมูงู งูสู้อยู่ .... ....ชูปู
ทูคู่ตู่คู่ทู.............คู่ปู้
สูดูหมู่หมูงู.........คู่ตู่
ปูตู่อู่ชูชู้..............อยู่สู้รูคู


สูกู สู้หนูปู สู้ปูกู้ สู้ปูชู
สูกู ขุดรูคู รู้คูหมู รู้รูงู

สูกู กูสู่สู้..........หนูปู
ปูตู่ตูสูกู..........อยู่กู้
สูกูขุดรูคู.........ดูอยู่
รูหมู่คูงูรู้..........รูปทู้รูปู (แลนา)

17 April 2014

~แด่ป้าเหวิน ~

โคลงสี่สุภาพ

๐ "วิรุฬ" นามบทนี้ .... ไพบูลย์
ผลก่อเกิดเพิ่มพูน..........พิพัฒน์แพร้ว
งามงอกพิสิฐจำรูญ........นาสวัสดิ์
ดุจดั่งรัตนาแก้ว............แห่งเบื้องโพยมบนฯ

๐ เป็นชนพันธมิตรผู้.......ตามธรรม อยู่นา
หวังปุระสยามลำนำ........เลิศก้อง
ปราศระบอบมารระยำ......ทุษชั่ว
นรโลกย่อมแซ่ซ้อง..........เนื่องด้วยไพบูลย์

๐ ร่วมอนุกูลพูนก่อเกื้อ.....ตามสา- รณีเฮย
แห่งมิตรร่วมองคา-...........พยพสู้
นับเดือนและทิวา..............นานนัก
สมเจตน์บุรุษผู้..................สถิตพ้องผองชน

๐ รณรงค์ปฏิรูปเกื้อ...........เมืองสยาม
ตลอดชีพชิวายาม..............แต่ได้
เพื่อชาติศาสน์กษัตริย์สาม...คงอยู่ สยามเทอญ
ตราบนิพัทธ์ตลอดไซร้........แทบสิ้นกาลนาน

๐ แม้นผ่านกาลกษณะโพ้น......หลายฉนำ ก็ดี
พวกพี่น้องจักยังจำ................จิตสู้
การปฏิรูปต้องสำ..................เร็จสิ่ง ถ้วนแล
เพื่ออนุกูลชนทุกผู้.................พิภพเบื้องจอมสยาม

๐ สมความมโนรถตั้ง.............นาม "วิรุฬ"
ด้วยจิตอันเป็นบุญ................ใหญ่ล้น
แห่งการต่อสู้เป็นคุณ..............แก่ชาติ ไทยแฮ
จงสฤษดิ์วิมุตติ์พ้น.................สู่เบื้องแดนสวรรค์ ฯ (แลนา)

เฉลิมพรสงกรานต์ 2557



โคลงสี่สุภาพ

๐ อัญขยมประณตไท้...........เทพดา สรรพเฮย
เชลงบทสุพจนา..................พากษ์ได้
ประสงค์เพื่ออวยวรา...........ไทยสถิต
ด้วยกาพย์โคลงลิขิตไว้........พิภพเบื้องแดนสยาม

๐ นามวันเถลิงศกเบื้อง.........อธิกกาล
อาทิตย์แลตามวาร..............บ่งได้
สุรทินมะเมียจาร..................ขานนับ
นวศกแห่งสยามไซร้..............ฉบับแม้นตามบูรพ์

๐ จำรูญพรประเสริฐแม้น.......โลกา
สรวมเดชตรีรัตนา................เลิศแพร้ว
ทั้งเทพมหิทธิ์นานา...............ในภพ
ทรงฤทธิ์วิเศษแก้ว................ทั่วเบื้องจักรวาล

๐ พานปัดขจัดทั่วทั้ง..............ทุกข์หลาย
สรรพะพยาธิกาย...................หมดสิ้น
กษัยก่อเกิดเรียงราย...............สูญลับ
อุปัทวะแดดับดิ้น....................สฤษดิ์ด้วยฤทธา

๐ ชนมายุสวัสดิ์พร้อง..............ครองสกนธ์
เพิ่มเดชชเยศวิมล...................ผ่องแผ้ว
บารมีพร่างพรายจน.................จรดสมุทร
ประดุจเทพยิ่งแล้ว....................เพริศเพี้ยงรัศมี

๐ คิดใดดีประเสริฐถ้วน..............ตามธรรม 
ในเจตน์จำนงนำ.......................แน่วไว้
ขอจงสมิทธิ์ถ้วนสำ-...................เร็จเถิด
ประสิทธิ์ผลรวดเร็วให้.................ดุจเพี้ยงนัยนา

๐ มวลคณาอริแม้น.....................ใฝ่อธรรม
จุตรทิศคิดริยำ...........................ประทุษร้าย
ขอเดชสรณะไตรนำ.....................ทางสว่าง
พิชิตทุพาลคล้าย.........................พระพุทธผู้องค์เกษม

๐ ปรีดิ์เปรมครองสุขถ้วน...............ตลอดปี
ตราบสุริยะแสงมี...........................ส่องหล้า
ตราบดารกะรังสี...........................วาววับ
ตราบนิรันดร์เบื้องหน้า....................ตลอดเพี้ยงกาลนาน ฯ (แลนา)

ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ตครับ


2 April 2014

อาศิรวาท สมเด็จพระเทพฯ


วสันตดิลกฉันท์ ๑๔

คือ "เทพ" สถิตจุติพบู ………………..จรสู่ไผทไทย
คือแสงประภากรไสว...............................มณิก่อประกายกานต์

คือ"รัตน์" ประภากรพิสิฐ.....................ทศทิศพิมลพาน
เชี่ยวศรีวิธีพิชญะชาญ...........................นรถ้วนนิยมชม 

พุทธา ปาฬิภณะอัก-......................ขระลักษณ์ตลอดกรม
แพร้วเพริศอุบาสิกะประสม....................สมญาพระเทพฯนาม

ท้าวผู้เพาะชูกิรติธรรม.......................สุตะนำพิชาความ
"พอเพียง"เผดียงสุภะสยาม....................จรสู่จรูญชน

ราษฎร์นึกระลึกจริยะวัตร....................พจนัตประภาษผล
ปวงข้าฯประชาสุขะประดล....................เพราะพระองค์เสด็จรอน

สรวมพรพระไตรสรณะรัตน์.................สระอรรถะธรรมพร
ขอทรงเกษมสุขะขจร............................นิระโรคนิราภัย

แม้นทรงประสงค์จิตะนุสน-.................ธิสกละใดใด
ขอทรงสฤษดิ์สรรพะประไพ...................ตละมวลประการมาน

นารีประทับอัศวะขาว.........................สิสกาวอดูลย์ดาล
ให้สิ้นอรินทรจะหาญ............................ดุจะแม้นมุนินทร

ขอองค์พระบารมิประทับ.....................พละขับริปูรอน
เรืองไทยพิชัยชิตะสมร..........................จรสู่อำไพเทอญ  

คำแปลศัพท์
พบู - กาย
รวิ- แสง
พิชญา - ความรู้
ปาฬิ - ชื่อจริง ที่ควรจะเรียกของภาษาบาลี (เขาเรียกว่า ปาฬิภาสา)
ภณะ - คำพูด
กิรติ - แผลงมาจาก เกียรติ
เผดียง = เชิญชวน
อัศวะ - ม้า
ริปู - ศัตรู เหมือนคำว่า อริ

อำไพ -แสง