26 November 2013

~นิติธรรม~

วสันตดิลกฉันท์ ๑๔

ชื่อนามสยามปุระประเทศ ............ ระบุเขตผไทไทย
ชนมุ่งผดุงธรรมะวิสัย ....................นัยะพุทธะบรรหาร
เลิศองค์บดินทรอุบา-.....................สกะสาธุชนปาน-
องค์โพธิสัตว์ทิพะประทาน.................สุสฤษดิ์ชะลอลง
มีธรรมนูญพระนิติรัฐ....................อนุวัติพระธรรมทรง
เป็นแบบลบองนระประสงค์................ระบุถ้วนกระบวนหมาย
ปกครองประเทศทะนุประโยชน์ ........มละโทษเทวษคลาย
เพื่อปวงประชาพสกหลาย...................สุขะภัทร์ประมวลกูล
ธำรงผจงดุลยภาพ.......................... สถาปน์ประภาพพูน
เพื่อมุ่งผดุงกฤติพิบูลย์………………..นฤชาติประชาชน
เพื่อชาติ, พระศาสนะกษัตริย์………….จะปวัตน์ธำรงตน
ตราบกาลและนานกษณะดล…………...ประจุคู่สยามไทย
หาเป็นระบอบประลุเผด็จ………….....กรเบ็ดและเสร็จไป
ด้วยเพียงกะเสียงมติวิสัย……………….เฉพาะมากจะลากกัน
ดั่งได้แสดงดุจะประเดิม……………….เพราะจะเสริมอนุสสร์อัน
คำองค์ตุลากรขยัน……………………… พิจารณ์พิพากษา
อันปวงประชากระสยาม……………….พหุนามะธรรมา
ร่วมเคียงเผดียงรณะประดา……………...ทุษะอักกตัญญ์พาล
ร่วมรักและรักษ์นิจะพิทักษ์………………สหภักดิ์ประชาชาญ
ให้ชาติจะพ้นวิกฤติการณ์………………….กะทุราริยำทราม
เพื่อมุ่งผดุงและจรสู่……………………..ปฏิรูปประเทศตาม-
แนวทางวิธีพสกนาม………………………นรชาติประชาชน
ให้นามสยามทะนุผดุง…………………..เพาะพยุงประโยชน์ผล
เลิศหล้ามหาคุณะประดล………………….. นิกรพสกไทย
โลกเลื่องกระเดื่องปุระประเทศ…………….เฉพาะเลศพิบุลย์นัย
ตราบฟ้าทิวากษณะใน……………………..บุระหล้านิรันดร


แปลศัพท์

บรรหาร - กล่าว
บดินทร- กษัตริย์
อุบาสก - ผู้นั่งใกล้พระรัตนตรัย
อนุวัติ - กระทำตาม
ลบอง - แบบฉบับ
เทวษ - ความลำบาก
ภัทร - ดี งาม
หิต - ประโยชน์
ประภาพ - อำนาจ
กฤติ - ทำให้
ปวัตน์ - เป็นไป

13 November 2013

~~รุ้งจันทรา~~





อินทรวิเชียรฉันท์

กลางวันตะวันร่ำ......ทินะย่ำนิยมยาม
ยอแสงสุรีย์ตาม.........รุจิเด่นโพยมบน
อึดใจแน่ะใกล้รัต-.......ติจะผลัดลุเวหน
อาทิตย์อุไรบน..........นภะย่ำพสุนทร์ทราย
๐ ดวงจันทร์กระจ่างแจ่ม...ลุแอร่มและพริ้งพราย
เจิดจ้านภาราย..........ปริวัตระตามเพ็ญ
๐ พฤกษาและป่าเขา...พนะเนาขจีเห็น
ชุ่มชื่นระรื่นเย็น...…....ระดะดาษตระการตา
๐ ทั้งพุ่มและช่อบุษ-....ปกะดุจจะเทพา
ว่ายวาดสะอาดตา......วยุพัดสะบัดใบ
๐ ทั้งเขาและเนาเนิน....ศิละเทินและโขดไศ-
ลาแลงชะแลงไพร.......พิศดูสราญตา
๐ ฝูงนกวิหคเหิน.........มิสะเทิ้นเหาะยานหา
อาหารประทังกา-........ยะเพราะรัชนีกาล
๐ ยืนอยู่ ณ ภูอัน……..กละคันธมาทน์ปาน
ห้อมมั่นกะปราการ.......ดุจะเย้ยทิฆัมพร
๐ เบื้องขวาก็น้ำตก.......ประจุผกและจ่อมจร
ซ่าซ่าชลาธร................กระแสะคลื่นสำเนียงชล
๐ เบื้องซ้ายสิรุ้งจัน-......ทระอันโพยมบน
ด้วยแสงสุรียน.............ปะทะอินทุมาสดวง
๐ บงดูพิไลพรรณ.........ธรรมะอันจะสร้างสรวง
ตามในนิยามปวง.........ปรมัตถอรรถธรรม
๐ กอปรเหตุพิเศษเห็น....กฤติเป็นปวัตน์นำ
ปัจจัย ณ ในกรรม.........วิญญาณะอาหาร
๐ ด้วยสัพพะสัตว์ถ้วน.....ตละล้วนจะต้องการ
อาหาระทุกวาร.............ลุปวัตนเป็นไป
๐ นี้หลักนิยามนำ..........อรรถะธรรมะอำไพ
แห่งโลกธาตุใน..............ทศหัสสธาตุองค์
๐ สัมพุทธ ธ ตรัสชี้.........ณ วิธีพิจารณ์สรง
กอปรญาณะธำรง...........จตุสัจจะความจริง
๐ เราเนยยะชนผอง.........กวะต้องนิยมอิง
กับธรรมดาพิง................ประลุสรรคปัญญา
๐ เพื่อจักประหารเฉท.......เฉพาะเภทกิเลสา
กอปรอรรถะมรรคา.........หิตเกื้อวิมุตติ์ถึง
๐ ล้วนสุขละทุกข์โศก.......และวิโยคเทวษรึง
ตราบเท่านิพัทธ์พึง..........อภินันท์นิรันดร์เทอญ​ ฯ

แปลศัพท์

รัตติ - ค่ำมืด
พสุนทร์ - ดิน
บุษปก - ดอกไม้
สะเทิ้น - เคลื่อนไหว
ทิฆัมพร - ท้องฟ้า
อินทุ - พระจันทร์
ปวัตน์ - เป็นไป
ทศหัสสธาตุ - หมื่นธาตุ
เทวษ - ความลำบาก
หิต - ประโยชน์
วิมุตติ์ - ความหลุดพ้น
นิพัทธ์ - เนือง ๆ เป็นนิตย์
อภินันท์ - มีความสุขล้ำ

5 November 2013

เรา ... คือ ... พันธมิตร


วสันตดิลกฉันท์ ๑๔



๐ เกิดในสยามมิกะอุบัติ.............ระบุขัตติย์เกรียงไกร

เลิศองค์มเหศะอภิไธย...........ภุมิพลระบือนาม

๐ โลกเลื่องกระเดื่องปุระประเทศ......กิระเหตุวิเศษขาม

เป็นสุขมิโศกพสุสยาม..............เพราะพระองค์พระทรงชัย

๐ เป็นชนและเหลืองกละสุวรรณ...คณะพันธมิตรนัย

ด้วยเจตน์สฤษดิ์นิมิตะใจ............อุชุสัจจ์วจีบน

๐ พร้อมอยู่ ณ หมู่ ปณิธิหมาย ....พลิกายถวายชนม์

เพื่อชาติ, พระศาสน์, และอนุสน-...ธิกษัตริย์ประการสาม

๐ พร้อมฉันทะมั่นกมละเดี่ยว..........ดุจะเดียวแสดงนาม

เพื่อการมล้างอสุระขาม................ปฏิรูปประเทศไทย

๐ ปราศผู้ทุพาลบุรุษะกัก-..............ขฬะอักกตัญญ์ใน

อากรธนานิกระไทย.....................ทุจริตและฉ้อฉล

๐ สมบัติชาติและพัสถาน...............ระบุจารละเลอยล

ทั่วถ้วนละล้วนและตละคน..............ก็จะได้ประโยชน์สรร

๐ ส่วนทุนนิยมฆณะระบอบ..............เฉพาะชอบเหมาะควรปัน

ทุกหมู่และเหล่านิกรครัน.................ประลุถึง ณ แหล่งทุน

๐ ตามกฎนิยมพระนิติรัฐ.................ระบุขัตติย์เจือจุน

ผิดชอบก็รอบสกลสุน-..................ทระธรรมนิรันดร

๐ ตามส่วนเสมอผละสมิทธิ์..............ประลุสิทธิอิสสร

ตามธรรมะนำคุณุปกรณ์.................อุปการะเกื้อกูล

๐ เพื่อนามสยามทะนุผดุง...............เพาะพยุงและจำรูญ

ตราบแสงสุรีย์จะบริบูร-..................ณะนิพัทธ์ตลอดเทอญ ฯ

~~เมื่อคราฟ้าหม่นหมอง~~



อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑

๐ กาญจน์พรรณตะวันฟ้า................สุริยามิอ่อนแสง
เด่นดวง บ ลับแรง...........................รวิก่องรุจีพราว
๐ บงฟ้าโพยมพิศ..........................ฆณชิดตะวันราว
บดบังสกาวขาว.............................ทินะแสงกระจ่างตา
๐ ครึ้มครึ้มนภัสมาศ....................สิประกาศมิลับลา
ว่าเทพสกลครา..............................ชละหลั่งถะถั่งสาย
๐ ยลพื้นอุทกแผ่น.........................ฆระแดนสลิลราย
แสงฟ้านภาฉาย...........................สิสะท้อนชลาเงา
๐ ฟ้าครึ้มทะมึนเม-.......................ฆะชะเลก็ทึบเอา
หมองหม่นระคนเฉา.......................นัยะเคล้าอะดูรดาย
๐ เหลือบหาวิหคเหิน......................จะสะเทิ้นทะยานกาย
โผนผกเหาะเรียงราย......................ณ นภัสก็ห่อนเห็น
๐ ดุจดังจะใกล้ค่ำ..........................ทินะย่ำวิกาลเย็น
เงียบเชียบพะเพียบเป็น...................สรชัฎและป่าซาง
๐ ผองแผ่นชลาพื้น.........................กระแสะรื่นระเอื่อยพลาง
ดังใจจะให้คราง............................จะละห้อยคระโหยหา
๐ ผองไทยสยามเรา........................ปุระเศร้าวิโยคครา
สูญเสียพระสังฆา-............................ธิบดินทราบาล
๐ ชนไทยนราผอง............................สุระร้องละโหยหาร
ด้วยเศร้า บ เพลาภาร-.......................ะสะอื้นมิผ่อนผัน
๐ คราองค์พระทรงชาญ.....................พละญาณอุดมปัญ-
ญาชัดวิสัชช์ธรรม์..............................นระสาธุการสุนทร์
๐ สอนสั่งประชาชี.............................ตละที่จะเจือจุน
ในธรรมพระพุทธคุณ..........................สุวิสุทธิกำจร
๐ เกื้อกูลนราสง-..............................เคราะหะองค์มเหศร
อยู่คู่บดินทร....................................ทวิทศวรรษนำ
๐ เมื่อสิ้นพระสงฆ์เจ้า.........................นฤเข้าพิไรรำ
ด้วยดวงตะเกียงธรรม........................รุจิมิดและดับลง
๐ ดุจว่ากะนาเวศ..............................จรเลศก็เลยหลง
นายเรือสิปลดปลง............................ก็จะล่องละลอยไหน
๐ กลางเลอุทกคลื่น...........................กระแสะกลืนสิซัดไป
โต้งเต้งคะเครงไกล............................ภัยะร้ายก็หมายหัว
๐ ลอยไหนก็ไป่รู้................................พิศดูสิน่ากลัว
วันใดจะจมตัว...................................วปุเป็นกระยาหาร
๐ ปลาจ้องละอองฟ่อน........................ขณะตอนสรีร์พาน
ตกชลกระแสธาร................................สิก็งับขย้ำเอา
๐ ชนนิดกระจิดน้อย...………………....ก็จะพลอยจะอับเฉา
เหยื่อปลาคณาเนา..............................กวะปูชะเลมา
๐ สูญสิ้นและภินท์พัง...…………………ดุจะดั่งกระดังงา
ถูกไฟคระไลลา..................................พละกูณฑะมอดเหลือ
๐ สงสารปุริสชาติ..............................เฉพาะปราศพระธรรมเยือ
หลงไหลกิเลสเครือ..............................กวะมารจะเปรอปรน
๐ ทั้งผองทุราโรค.................................ฆนะโภคสิเลอยล
เพียบกามคุณสน-.................................ธิวิกลวิการเสีย
๐ ลืมคำพระสอนสั่ง...............................จิตะดังพิการเพลีย
ปราศญาณพิจารณ์เยีย...........................คติโมหะเป็นมูล
๐ เราผู้ตริตรองมา................................พิชญาณะเกื้อกูล
เห็นภัยประการสูญ................................สิก็จึงยุบลเตือน
๐ จารคำภณากล่าว..............................ขณะคราวประชาเชือน
หลงมารระรานเบือน..............................กวะโจระทำลาย
๐ เถิดตรองคระลองนัย..........................พิเคราะห์ให้ฤทัยกาย
ปราศโมหะฟั่นคลาย..................................มนะเพริศลุปัญญา
๐ เป็นสรรคสร้างจิต..............................และสมิทธิสัมมา
ตามอรรถะมรรคา.................................สุคตาพระพุทธัง
๐ เพื่อจักประหารเฉท.............................เฉพาะเพศกิเลสดัง
คำสังฆราชมัง-......................................คละองค์พระทรงธรรม
๐ ถึงซึ่งพระนิพพาน...............................ลุสถานประกอบนำ
ปราศทุกข์และสุขล้ำ...............................ณ นิพัทธ์นิรันดร ฯ

คำแปล

กาญจน์ - ทอง
สุริยา-พระอาทิตย์
รวิ-แสงอาทิตย์
โพยม- ฟ้า
ฆณ-เมฆ
อุทก -น้ำ
ฆร - ชิ้น, ส่วน
สลิล - น้ำ
วิหค - นก
สะเทิ้น - เคลื่อนไหว
มเหศร-พระมหากษัตริย์
บดินทร - พระมหากษัตริย์
ทวิ - สอง
นาเวศ - เรือ
วปุ - ร่างกาย
ภินท์-พัง ทำลาย
กูณฑ์ - ไฟ
เยือ- นาน
ฆน-ลิ้น
กามคุณ-คำ ๆ นี้เป็นคำวัด แปลว่า สิ่งที่น่าปรารถนา มีอยู่ 5 อย่าง ตามประสาทสัมผัสของคนเรา เช่น รูป เสียงกลิ่น รส และโผฎฐัพพะที่น่าชื่นใจ
เยีย- ทำ
ภณา-พูด
วจิ- คำพูด
สมิทธิ์ -ทำให้เสร็จ
นิพัทธ์-เนือง ๆ