30 December 2012



สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๖



อัญขยมประนมกรประณต....พระสุคตอุดมชีว์
สรวมพรพระไตรสรณะมี........สุวิสุทธิ์บรมคุณ
บรรเลงนิพนธสุภวา-...........กยเพื่อประสงค์จุน-
เจือจารลิขิตพหุละสุน-............ทรพรบวรดี
ด้วยกาลเถลิงศกบวร............ทินกรลุข้ามปี
สากละโลกะยะวิถี.................ปริวัตระผลัดกัน
๐ ศกเดิมผณีศวรรา-.............ชะมหามะโรงวรรณ
มังกรสมิทธิ์ระบุลุผลัน............นักษัตรมะเส็งงู
๐ ข้าฯนามสยามมิกะอุบัติ.......วรวัฒนาชู
สรวมเดชพระไตรรัตนภู-..........ริสุทัศนาชม
๐ พร้อมเทพสถิต ณ ชลสี........ปฐพีและอาศรม
อีกองค์มหาบวรพรหม.............อดิศระฤทธา
๐ จงปัดขจัดอุปะวะสรร-...........พมหันตทุกขา
มวลโรคพยาธิอธิภะยา.............จะวิบัติกษัยสูญ
๐ ยืนชนมายุศมวัฒน์...............สุสวัสดิจำรูญ
ทั้งเดชชเยศวรพิบูลย์...............ตละสูรกากร
๐ คิดใดก็ได้ประดุจะจิต............จะพิสิฐอุดมพร
สมจิตสมิทธิ์บทะบวร................และประสิทธิว่องไว
๐ หมู่ชนพหลอริวิเศษ...............ดุจะเดชะมารใด
ขอเดชพระองค์สรณะไตร...........พิระเกื้อกำลังราญ
๐ ให้สรรพะมารพละอสูร............พละกูณฑะมอดผลาญ
แพ้พ่ายพยูห์ธรรมะประทาน........นิจกาลทิวาบรรณ
๐ ครองสุขสนุกปิติวิเศษ.............จรเลศฉนำวัน
ตราบนานยุกาลสุริย์จะผัน...........จิระแม้นนิรันดร์เทอญ​ ฯ

(วสันตดิลกฉันท์ ๑๔)

14 December 2012

~ยามทินกรอัสดง~



วสันตดิลกฉันท์ 14 

๐ อ้าแสงระแรงรุจิประภัส-
สระอรรถะอำไพ
เปรียบดวงประทีปวระอุไร
ชวลิตพินิจเห็น

๐ กลางวันอนันคณนา
นระคลาคละคล่ำเป็น
ทำงานประสานขิพิตระเย็น
จระใต้อุไรดวง

๐ อ้าแสงระแรงสุริยะเจ้า
กละเข้านุกูลปวง
เมื่อลับและกลับพิภพะสรวง
ทินกรจะลีลา

๐ เหลือบแสง ณ แหล่งอุทกะผืน
ขณะคืนจะจรมา
เหลือบใจคระไลหทัยะภา-
วะสถานะชื่นเย็น

๐ เมฆาปะอาทิตยะแสง
ดุจะแต่งวะวาดเป็น 
แสงลับแน่ะอัมพระจะเห็น
ทะลุอนธการปาน

๐ แม้นใจไฉนนรสถา-
นะสภาวะธรรมจาร
ร้างเภทกิเลสประทุษะผลาญ
ริปุไหนจะโรมรัน

๐ ธรรมองค์ประดุจบวระอัม-
พรนำชิวาพรรณ
ธรรมองค์ประดุจระบุสุวรรณ
บ มล้าง ฤ เลือนไป

๐ ตูข้าประดาทัยะอุบัติ
ลุมนัสะเต็มใจ
กราบกรานศิราธรรมะพิไล
กวะตราบสลายกาล

๐ ขอองค์พลาพิชัยะธรรม
ตละนำพิชิตมาร
ตราบผู้ดนูประลุนิพาน
ลุวิมุตติสุขเทอญ ฯ

4 December 2012

เฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๕




เศียรค้อมประนมะกระพุ่ม..........พระสยามสวามี
กรองฉันท์ประพันธสดุดี..............นรเทพเถกิงไกร
จักร์พรรดิขัตติยนรินทร์............ปถพินทร์ทิพาลัย
ดั่งรามราฆพไผท....................กิติศักดิ์ประจักษ์จินต์
สมเด็จประมินทรมหา...............ภุมิพลนวามินทร์
เอกองค์พระมงกุฎสิริน-...............ทสุคัณฑ์สมัญญา
อันนามสยามกิติวิมล................เพราะยุบลพระราชา
ทรงงานสมานนรประภา-...............กรนันทเปรมปรีดิ์
ห่อนเห็น เช่นประทุษะพา-........หิระกายะโรคมี
เหน็ดเหนื่อยและเมื่อยพระพละพลี.......เพราะประโยชน์ประชาชน
ทั่วแคว้นลุแดน ธ ก็เสด็จ................บรเพ็ดประเทศหน
ท้าวทรงพิชาญพิทยะดล..................ตละเมตตคุณมัย
๐ โครงการประทานคติประพฤติ..........นระยึดยุบลนัย
ปัญหาผิมาจระวิสัย...........................ก็มล้างมลายครัน
๐ ปางท้าวเสด็จวริทิศา........................สุขุมาละเทพธรรม์
สืบพูนอดูลย์ธรรมะสววรค์................กิจะกอปรพิธีการ
๐ ไท้พิศ ณ สันตติวิมล....................กละดละบันดาล
กอปรผลพิบูลย์พิชญะชาญ..................สุรนันทเปรมปรีดิ์
๐ ธาราพิศาลทัศนะทอด....................ก็ตลอดชลามี
เภตราสุวรรณพิพิธะสี........................กละทิพย์พิมานบน
๐ เสนาพฤฒาคณะอมาตย์..................พิณพาทยโกศล
นินนาทภิรีคณะประพน-...................ธ วิศัพทก่องแสง
๐ เปล่งมังคลารุจิประภัส-.................สระอรรถะสำแดง
เปล่งมังคลารวิระแรง......................ยศะกว้างขธรไกล
ในวาระกาลศุภดิถี....................สุขะปรีดิเปรมใจ
ธันวามหารชะนุสัย......................ดิถิฤกษ์สุมงคล
สรวมพรพระไตรสรณรัตน์.............สิริภัทร์อุบัติผล
เทอดเกียรติขจรคติสกล.................คติก้องสุมนนาม
ขอองค์พลาพละนมัย..................สุวิไลและแข็งขาม
ซึ่งมวลประชวรประทุษะทราม............จะสงบระงับพลัน
แทบบารมีกิรติศัพท์....................คุณะนับเกษมสันต์
สิ่งศักดิสิทธิ์คติจรัญ........................อดิศรเผดียงคุณ
ครองดินอรินทมนเรนทร์............... ปรเมนทร์มฆาดุลย์
สมเดชพิเศษพระยศบุณ-................. ยโศลกสิรินทร
เชิดชาติพระราชประยุรรักษ์..............มนภักดิสิงขร
เสนาประชานรบวร.........................จิตะรักสมัครกาล
เข้มแขงและแรงปุระสยาม...............ริปุหนามพลาพาล
พ่ายเลศ เดชสมัค์คิจาร.................. นรชนไผทไทย
ขอองค์บวรมหกษัตริย์.....................ทะนุรัฐสุขาลัย
ตราบนานยุกาลสิริวิสัย....................... สยามนิรันดร 

น. วงษ์วานิช
(วสันตดิลกฉันท์ ๑๔)
๔ ธันวาคม ๒๕๕๕