28 November 2012

-- เนื่องในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 12 --




วสันตดิลกฉันท์ ๑๔

กรองฉันท์สวรรค์สุภะประพจน์
มธุรสะกำจาย
กล่าวความประนามและอภิปราย
รสะถ้อยระบิลมา

เนื่องในสมัยศศิวิกรม
ชุติห่ม เวหา
เพ็ญวาระกาลทวิทวา-
รสะเดือนประจวบกัน

แผ่นน้ำ ท่ามศศิรุจี
ชลธีรพีพรรณ
เต็มพิงตลิ่งอุทกะนั้น
กระแสะสรรค์ชลาชล

ลมโชยประโปรยชละระลอก
ดุจะหยอกและยั่วยล
ชวนชื่นระรื่นกระแสะระคน
ระบุมนตระตรึงใจ

รำวงกระทงนยะประจาค
ประลุภาคสว่างไป
แสงเทียนเฉวียนรุจิระไพ-
ฑุริย์พร่างและแพรวพราย

ตั้งจิตและคิดอธิษะฐาน
อุปการมโนบาย
ว่าผู้ดนูจะสละหงาย
และเลาะร้ายกิเลสตน

ตามธรรมพระสัมปรมะพุทธ
สุวิสุทธิ์นราชน
ขอลอยและสอยทุษะถลน
ดุจะเหมือนกระทงหนา

อีกพร้อมจะน้อมพระธรรมะรัฐ
ปฎิบัติลุกาลมา
เพียงพัดขจัตกิเลสะสา-
วกมารมุนินทร

หลังกรรมะนำนยะประจาค
และก็บากลุพักตร์จร
สู่ลานวิหารสุุระสมร
และสดับพระธรรมฉาย

เรื่องราว คราวจะพุทธะกาล
ระบุจาระรำบาย
แห่งพุทธะบุตระขยาย
ธิระฉายประเจิดสรร

นามสาริบุตรสุคตะผู้
ธิระรู้คระลองธรรม์-
กอปรญาณวิสุทธิคุณะนัน-
ตะมหรรณพากร

ปัญญาสภาวะรวิโรจน์
จะเลาะโฉดกิเลสจร
มืดมนและอนธกสะท้อน
ก็จะถอนและหลุดพ้น

วันชื่นและคืนศศิวิสุทธิ์
ก็หยุด ห้องหน
ด้วยโรควิโยคประทุษะกล
ขณะพักและผ่อนมาน

มารดาก็พาประทุษะโศก
และวิโยควิกลการ
ด้วยบุตระสุดปิยสถาน
สิเลาะรวนและป่วยกาย

เทวาก็สาวกสถิต-
ยะประสิทธิ์สฤษฎ์ราย-
ทิพย์โอฬะพารุจิระฉาย
อุปฐากเสนอพลัน

ท่านธีระเสนะบดีธรรม
พจคำ จำนรร-
จาว่าก็อาตมะแหละนั้น
อุปฐากสิมีมา

ไป่ควรอมรละทิพอาส-
นะนิวาสะเทวา
ด้วยรสสุคนธ์มนุษยา
สุรกามิยินดี

ย่อมมาดปลาตก็เพราะแขยง
รสะแห่งมนุษย์มี
เทพแย้งเพราะแรงศิละพลี
กวะปรีชะญาณคุณ

แห่งสาวกาสุคตบุตร
บริสุทธิการุณ
ย่อมอาจจะฆาตพหุละสุน-
ทรเบื้องสุคนธรรม์

ถึงท่านธิราธรรมะบดี
พจนียะยืนยัน
ให้กลับนิวาสอมรนั้น
ก็จึงจะโอนตาม

ซึ่งเทพอมรรุจิระแสง
กระจะแจ้งนิวาสคาม
มารดาพระธรรมธิระก็ถาม
กวะนั่นสิแสงใด

ไพลาศนิวาสชุติระห่ม
รุจิชมอร่ามไป
แพรวพรายผกายนัยนะไข
ดนุฉันมิเคยเห็น

ถึงท่านธิราธรรมะบดี
พจนียะตอบเป็น
ความว่าแน่ะมาตะก็จะเห็น
สุระแห่งพระองค์อินทร์

พราหมณีสะรีก็ประลุสง-
สัยะลงเพราะได้ยิน
บุตรตนแหละผู้อธิบดิน-
ทรยิ่งกว่าเทวัญ

ยินดีและปีติมนะสุข
และเลาะทุกข์สิโดยพลัน
ท่านสาริบุตระก็มั่น
จะขยายพระธรรมพร

ด้วยพุทธะคุณแหละก็สนาน
ระบุจาระธรรมสอน
เมื่อจบพระธรรมะอนุสรณ์
ก็ประจบ โสดา

เป็นผู้มิต้องประทุษะมาร
นรกานต์นิรันดร์มา
จักเที่ยงและจักประลุ ภา-
วะวิมุตติสุขแล

บัดนั้นก็พลันรวิจะฉาย
ทินะกลายลุวารแปร
ถึงท่านธิรานะบดิแม้
จะมลาภิขูสงฆ์

ว่ากาละวารอธิกะทิน
กรผินอำไพลง
แม้นมีธุลีจะเสาะและหลง
ดนุฉันก็ยกกัน

จากนั้นก็พลันปรินิพาน
ประลุวารอำไพพรรณ
แห่งผู้ธิรานบดีธรร-
มะพิชาญชญานินทร์

ดูเถิดนะท่านปิยสหาย
ภวะตาย กายิน
จวบคู่นราชนและสิ้น
และจะเว้นก็ไป่มี

สังขาระพาทุขะมิสุด
และมิหยุด รอรี
ควรเราจะเอาธรรมะวิถี
กวะที่ประพฤติธรรม

รักษาทวาระนะวิสัย
สติไว้กะใจนำ
แตกสายมลายกิเลสะชำ-
ระกะธรรมมุนีนา

นายเรือสิเพื่อจะจรลี
ชลธีอุทกมา
ไป่หลับและพับ พะกะคา
สิก็ได้สวัสดี

ขอท่านสดับพิเคราะหะธรรม
ตละคำเหมาะควรชี-
วาผู้จะชูพิชญะมี
ธรรมะนี้ประเสริฐครัน

ขอให้หทัยมนะพิสุทธิ์
และเลาะหลุดกิเลสพลัน
พานพบประสบนิรุธะมั่น
ลุวิมุตติสุขเทอญ




No comments:

Post a Comment